ได้หรือเสีย? "ยาบ้า10เม็ด เป็นผู้เสพ"

รมว.สาธารณสุข เตรียมออกกฎกระทรวงกำหนดจำนวนครอบครองเม็ด “ยาบ้า” ต้องไม่เกิน “10 เม็ด” ถือเป็นผู้เสพเท่ากับเป็นผู้ป่วยต้องไปบำบัด

ความคิดเห็น
400
ไม่เห็นด้วย
50 %
เห็นด้วย
0 %

ความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจชั้นประทวนผู้มีวุฒิปริญญาตรีขึ้นไป เพื่อแต่งตั้งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร (หลักสูตร กอน. )

ทั้งหมด 467 นาย ไม่เห็นด้วย 403
คิดเป็นสัดส่วน 86% เห็นด้วย 64 คิดเป็นสัดส่วน 14%

ภาพกิจกรรม

ตัวอย่างความคิดเห็นที่เห็นด้วย

"

       มีจำนวนไม่มาก และช่วยลดปริมาณจำนวนนักโทษในเรือนจำ เพราะเป็นคดีเสพไม่ใช่การคดีจำหน่าย

"

"

       ตามปกติของผู้เสพจะไม่เสพ10เม็ดพร้อมกัน การพกพายาบ้า10เม็ดขึ้นไป จึงสันนิษฐานได้ว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย

"

"

       เนื่องจากปริมาณอยู่ในจำนวนที่พอเหมาะพอควร(พอรับได้) อีกทั้งเพื่อเป็นการลดจำนวนนักโทษในเรือนจำที่มีอยู่จำนวนมาก และเป็นการให้โอกาสคนที่หลงผิด ได้มีโอกาสเข้ารับการบำบัดรักษา เพื่อให้ได้กลับไปใช้ชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุขและไม่กลับไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติดอีกต่อไป

"

"

      เหมือนกฎหมายไปส่งเสริมสนับสนุนให้คนเสพยา

"

"

      เห็นด้วยครับ การครอบครองกี่เม็ดที่กฎหมายหมายกำหนดให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้จำหน่ายเมื่อเข้าข้อสันนิษฐานตามกฎหมาย ก็จะผลักภาระการพิสูจน์ให้จำเลยโดยผลของกฎหมาย ผมเห็นว่าไม่ว่าจะมีกี่เม็ดภาระการพิสูจน์ควรตกแก่โจทก์ผู้กล่าวหา ก็จะเป็นธรรมเเก่จำเลยครับ 

"

"

      จากประสบการณ์การทำงาน ที่เคยทำมา พบว่าจากการจับกุม ในคดีเกี่ยวกับยับเสพติดในพื้นที่ ที่พบพฤติการณ์ว่าเป็นผู้เสพ ส่วนมาก จะพกยาเสพติดจำนวนไม่ถึง 10 เม็ด และหากเป็นผู้ที่มีพฤติกรรมจำหน่าย ส่วนใหญ่ จะพบยามากกว่า 10 เม็ด แต่หากว่า ผู้ที่ครอบครองยาเสพติดไม่ถึง 10 เม็ด มีพฤติกรรมจำหน่าย และ ก็ดำเนินคดีเกี่ยวกับข้อหาจำหน่ายเป็นรายไป เพราะว่าผู้ค้ารายย่อยบางรายอาจมี ต้นทุนไม่ถึงที่จะมีถึง 10 เม็ด หรืออาจขายไปจำนวนส่วนใหญ่แล้วเหลือยาบ้าไม่ถึง 10 เม็ด จึงควรแยกต่างกรณีไป

"

"

      เห็นด้วยครับ การครอบครองกี่เม็ดที่กฎหมายหมายกำหนดให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นผู้จำหน่ายเมื่อเข้าข้อสันนิษฐานตามกฎหมาย ก็จะผลักภาระการพิสูจน์ให้จำเลยโดยผลของกฎหมาย ผมเห็นว่าไม่ว่าจะมีกี่เม็ดภาระการพิสูจน์ควรตกแก่โจทก์ผู้กล่าวหา ก็จะเป็นธรรมเเก่จำเลยครับ 

 

"

"

       เพราะว่าการที่กำหนดว่ามียาบ้า10เม็ด เป็นผู้เสพนั้น ไม่มีผลกับการที่ผู้นั้นจะมีครอบรองอยู่เท่าไหร่ หากผู้นั้นมีพฤติการณ์ในการจำหน่ายยาบ้าก็จะไปเข้าฐานจำหน่ายได้เช่นกัน การที่กำหนดให้การคอบครอง10เม็ดเท่ากับผู้ป่วยนั้น เป็นการช่วยผู้ที่เสพจริงๆไม่ต้องได้รับโทษที่หนักขึ้นตามที่ควรจะเป็นตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

"

"

       ไม่ว่าจะครอบครองยาบ้า 5หรือ10 เม็ด ก็ต้องดูจากพฤติการณ์ บางคนใช้ปริมาณยาไม่เท่ากัน

"

"

       เห็นด้วย ที่จะเอาผู้ครอบครองยาบ้าไม่เกิน10 เม็ดเป็นผู้เสพ เพราะทุกวันนี้ยาบ้าแพร่ระบาดในทุกกลุ่มโดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน จะมีคนล่ะ5-10 เม็ด เอาไว้เพื่อเสพ ซึ่งกระผมมองว่า พวกเขาเหล่าไม่สมควรโดนข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งเป็นข้อหาที่หนักเกินไป อย่างน้อยควรจะเป็นผู้เสพ เป็นบุคคลควรได้รับการบำบัด แล้วก็เผยแพร่หรือให้ความรู้เกี่ยวกับโทษยาเสพติดให้กลุ่มเหล่านี้ฟัง บางครั้งอาจจะหลงผิด หรือถูกเพื่อนชักชวน โดยที่ สามารถกลับตัวเป็นคนดี ไม่ไปยุ่งกับยาเสพติดได้ อีกทั้งจะทำให้เรือนจำมีนักโทษจากยาเสพติดลดลงได้จำนวนหนึ่งอีกด้วย

"

ตัวอย่างความคิดเห็นที่ไม่เห็นด้วย

"

     การให้ผู้ต้องหามียาบ้า จำนวน10 ไว้ในครอบครอง โดยให้ถือว่าเป็นผู้เสพ จะเพิ่มผู้ค้ารายย่อยอีกมากมีเพิ่มโอกาสในการเสพยาเสพติดง่ายขึ้น ส่งผล กระทบต่อการเกิดอาชญกรรมมากขึ้นในสังคม

"

"

     เพราะ ในปัจจุบัน ชุมชนต่างๆ ในประเทศไทย มีผู้ค้ารายย่อยในชุมชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจจะมีการครอบครองไม่ถึง 10 เม็ด เผื่อทยอยจำหน่ายให้แก่เยาวชน หรือกลุ่มเสี่ยง แม้จะครอบครองเพียงเล็กน้อย แต่ไปรับจากผู้ค้ารายใหญ่มาอีกที ทำกันเป็นเครือข่าย และอนาคตผู้ค้ารายย่อย อาจจะขยับขยายเป็นรายใหญ่ได้ จึงต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ดำเนินคดีข้อหาครอบครองให้หลาบจำ เพื่อไม่ให้กลายเป็นผลร้ายต่อชุมชนในอนาคต

"

"

      ในสถานการณ์ผู้เสพยาบ้ามีแนวโน้มเพิ่มขึ้น และผู้เสพมีช่วงอายุการเสพที่น้อยลง เพราะปัจจุบันยาบ้าหาง่ายและมีราคาถูกลงอย่างมาก ทำให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ง่าย ถ้าหากประกาศกฏหมาย เปลี่ยนแปลงให้ผู้ครอบครองยาบ้าน้อยกว่า 10 เม็ด เป็นเพียงผู้เสพและต้องได้รับการบำบัด จะยิ่งทำให้ผู้เสพเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และจะเป็นช่องโหว่เปิดโอกาศให้ผู้ค้าหรือผู้จำหน่ายยาเสพติดได้มีช่องทางครอบครองเพื่อนำไปจำหน่าย จ่าย แจก ได้ง่ายขึ้นเพราะประกาศการครอบครองไม่ถึง 10 เม็ด เป็นแค่ผู้เสพ ฉะนั้นต้องดูพฤติการณ์เป็นสำคัญในการที่จะต้องดูว่าเป็นผู้ครอบครองเพื่อเสพ หรือเป็นผู้ครอบครองเพื่อจำหน่าย จ่าย แจก ไม่ใช่นำจำนวนการครอบครองเท่าไหรมาเป็นการตัดสินว่าใครเป็นผู้เสพที่ต้องได้รับการบำบัด

"

"

        ไม่เห็นด้วยทั้งนั้นกับการลดโทษหรือทำให้ผู้ที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดโดยเฉพาะยาเสพติดประเภทที่1ต้องรับโทษน้อยลง  เพราะยาเสพติดเป็นสาเหตุที่สำคัญซึ่งคอยทำลายประเทศชาคิและสังคมไม่ให้พัฒนาไปข้างหน้า  

"

"

        ไม่จำต้อง10เม็ด กี่เม็ดก็สามารถเป็นผู้เสพได้ ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์

"

"

       การครอบครองยาบ้าเกิน 5 เม็ด ควรเป็นการครอบครองเพื่อจำหน่าย เพราะ

  1. ทำให้ผู้ค้าถือครองยาได้มากขึ้นแต่รับโทษในฐานผู้เสพ  

  2. ทำให้กระจายยาบ้ามากขึ้นและผู้เสพก็เพิ่มมากขึ้น 

  3.เมื่อผู้เสพมากขึ้นอาชญากรรมก็เพิ่มขึ้น เพราะปัญหาส่วนใหญ่มาจากยาเสพติด

"

"

       เนื่องจาก จะเป็นการทำให้ผู้เสพเกิดการได้ใจ และก็จะซื้อยาบ้ามาเก็บไว้กับตัวเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้ทันต่อความต้องการของตัวเอง รวมทั้งอาจเป็นช่องทางให้เกิดผู้ค้ารายย่อยขึ้นอีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งคนพวกนี้จะไม่เกรงกลัวตำรวจ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย ถึงแม้จะโดนจับโทษก็ไม่สูงเพราะเป็นเพียงข้อหาเสพ เช่นทุกวันนี้ข้อหาเสพมีการทำบันทึกสมัครใจหรือไม่สมัครใจเพื่อเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู ถ้าไม่สมัครใจก็ดำเนินคดี ซึ่งก็เป็นเพียงการจับกุมตัวแล้ว ต่อมาก็ปล่อยตัว เพื่อที่จะเรียกมารายงานตัวในภายหลังเท่านั้น ดังนั้นกระผมจึงมองว่าการที่กำหนดให้ผู้ที่มียาบ้าไว้ในครอบครองไม่เกิน 10 เม็ด นี้ จะเป็นการสนับสนุนให้ผู้กระทำผิดย่ามใจยิ่งขึ้นและเป็นพิษภัยของสังคมมากกว่าเดิม ครับ

"

"

        เนื่องจากปัญหายาเสพติดก่อให้เกิดปัญหาอาชญากรรมเป็นจำนวนมาก หากให้สิทธิแก่ผู้เสพยาเสพติดมากเกินไป จะไม่สามารถแก้ปัญหายาเสพติดได้ ส่งผลกระทำให้ประชาชนไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะคิดว่าครอบครองได้ เสพได้ไม่ติดคุก ส่งผลให้เกิดปัญหาในระยะยาวหากไม่ดำเนินการให้เด็ดขาด อาจก่อให้เกิดสังคมยาเสพติดเสรีได้ เพราะในปัจจุบันประชาชนสามารถหายาเสพได้ง่ายขึ้น และมีแนวโน้มว่ามีราคาถูกลง

"

"

        เนื่องจากจะทำให้เกิดผู้ขายรายย่อยเพิ่มมากขึ้นเป็นช่องทางสำหรับการจำหน่ายที่เกิดจากช่องว่างของกฎหมายทำให้ผู้ขายมีวิธีส่งต่อยาบ้าได้งานขึ้นเพราะไม่มีโทษที่หนักถึงขั้นติดคุกหรือผิดฐานจำไน่ายแต่อย่างใด และอาจทำให้เกิดผู้เสพรายใหม่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากไม่ต้องเกรงกลัวในโทษที่จะได้รับ ทำให้ยาเสพติดแพร่ระบาดในสังคมมากขึ้นทั้งนี้เพราะโทษบำบัดไม่ได้ทำให้ผู้เสพเกรงกลัว จึงอาจเกิดความวุ่นวายในสังคม

"

"

       การที่ปัญหาอาชญากรรมหลายรูปแบบ ส่วนหนึ่งคือปัญหายาเสพติด ตามความเห็นกระผม เห็นว่า แม้เพียง 1 เม็ด หากนำไปจำหน่ายโดยมีผลตอบแทน ถือเป็นการจำหน่าย ควรที่จะเข้าบทสันนิษฐานไว้ แล้วผลักภาระการพิสูจน์ไปยังผู้จำหน่าย แต่หากมองข้ามปัญหายาเสพติด เพียง 1 เม็ดเป็นสิ่งเล็กน้อย การปราบปรามก็ไม่อาจสัมฤทธิ์ผลได้

 

"

"

        ไม่เห็นด้วยเนื่องจาก เพราะยาบ้า1 เม็ดก้ขายได้  หากขาย 1  เม็ด ล้านครั้ง ก็ไม่ต่างอะไรกับการค้า เพราะฉะนั้นไม่เห็นด้วยกับคำที่ว่า ครอบครอง10  เม็ด เป็นผู้เสพ

"

"

        เป็นการส่งเสริมให้ผู้กระทำผิดใช้ช่องโหว่ทางกฎหมาย เพื่อครอบครองยาเสพติด

"

"

        เพราะอาชญากรรมที่เกิดขึ้น เพราะยาเสพติด ทำให้ต้องศูนย์เสีย บุคคลบริสุทธิ์ จะต้องมาเป็นเหยื่อ ควรมีโทษที่หนักกว่านี้ 

 

"

"

    ไม่เห็นด้วย เพราะจะเป็นการเพิ่มจำนวนผู้เข้าถึงยาเสพติด มีมากกว่า 1 เม็ดควรสันนิษฐานได้เลยว่ามีไว้เพื่อจำหน่าย โทษจะได้หนัก คนจะได้เกรงกลัวต่อกฎหมาย

"

"

        ไม่เห็นด้วย เนื่องจาก ยาเสพติด ก็คือยาเสพติด ไม่ว่าจะกี่เม็ดก็ตาม ผลที่ตามมาร้ายแรงเสมอ ในวันนี้เราอาจจะยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่ถ้าวันใดวันหนึ่ง เราได้รับผลกระทบขึ้นมา เชื่อว่าไม่มีใครเห็นด้วยแน่นอน และในปัจจุบันนั้น ผลกระทบในภาพได้เกิดขึ้นแล้ว

"

"

       ไม่เห็นด้วยกับการที่มีผู้ครอบครองยาบ้าไม่เกิน 10 เม็ดเป็นถือเป็นผู้เสพ เนื่องจากสถานการณ์ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นประเทศไทย หรือ ทั่วโลก ปัญหาอาชญากรรมส่วนมากมาจากยาเสพติด ยิ่งถ้ามีผู้ครอบครองยาบ้า ในจำนวนที่มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งเท่ากับว่าเป็นการเพื่มจำนวนของผู้เสพยาเสพติดมากขึ้น อีกทั้งการที่มียาบ้าจำนวนไม่เกิน 10 เม็ด ไว้ครอบครอง แต่ระบุว่าคือผู้เสพ ซึ่งโทษในกฎหมายของประเทศไทย ยังถือว่าเป็นระวางโทษที่ไม่หนัก อาจจะทำให้ผู้ที่ครอบครองยาบ้าไม่เกิน 10 เม็ด ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และจะยิ่งมีการเพิ่มจำนวนการครอบครอง หรือ เสพยาบ้าเพิ่มมากขึ้น ยิ่งส่งผลกระทบต่อการเกิดปัญหาอาชญากรรมมากขึ้นอีกด้วย

"

"

      ไม่เห็นด้วยเนื่องจาก อาจมีแนวโน้มที่จะทำให้ยาบ้าระบาดมากขึ้น โดยในปัจจุบันยาบ้ามีราคาถูก ยิ่งอาจทำให้เพิ่มจำนวนผู้ค้ารายย่อยในชุมชนได้มากกว่าเดิม ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้ผู้ค้ารายย่อย ใช้ช่องโหว่นี้เพื่อเลี่ยงความผิดที่สมควรจะได้รับ

 

"

"

      เพราะอาจจะทำให้มีคนใช้ช่องว่างจากกฎหมายตรงนี้  หันมาเป็นผู้ค้ารายย่อยจำนวนมาก

"

"

      แน่นอนว่าต้องเกิดผลเสียกับสังคมอย่างแน่นอน เนื่องจากปัจจุบัน ยาบ้ามีราคาถูกหาได้ง่าย ทำให้การเข้าถึงนั้นง่ายกว่าเมื่อก่อนมาก รัฐบาลควรจะกำหนดโทษจริงๆจังๆ 10 เม็ดถือว่าเยอะมาก หากเด็กและเยาวชนเห็นข่าวที่ออกไปและเกิดอยากจะลอง เพราะเป็นผู้เสพ ก็แค่บำบัด จะทำให้สังคมเกิดความวุ่นวาย ดังตัวอย่างข่าว ที่เด็ก ม.5 ติดยาบ้า เป็นเรื่องที่น่าสลดมากครับ รัฐบาลควรเอาจริงและกำหนดโทษให้ชัดเจน ขอบคุณครับ

"

"

      จากเดิมที่กำหนดไว้ไม่เกิน 15 เม็ด ให้ถือว่าเป็นผู้เสพนั้น คิดว่ายังสูงเกินไป ส่วนมากรายย่อยที่ขายตามชุมชนให้กับเยาวชน ครั้งละ ไม่เกิน 10 เม็ด ทำให้เกิดผู้ค้ารายย่อยจำนวนมาก เมื่อถูกจับกุมตรวจค้นพบไม่เกิน15 เม็ด ก็เป็นเพียงผู้เสพ ซึ่งโทษยังเบา

"

"

      ไม่เห็นด้วย เนื่องจากจะเป็นช่องโหว่ให้คนกระทำผิดมากขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการโดนข้อหาที่หนักกว่า (ข้อหาจำหน่าย) ความเสี่ยงน้อยลง และเป็นการเพิ่มภาระให้แก่สังคมไม่ทางตรงก็ทางอ้อม

"

"

      ไม่เห็นด้วย เนื่องจากการครอบครองยาบ้า 10 เม็ด แต่ไม่ได้มีพฤติการณ์จำหน่ายก็จริง เพียงแต่มีไว้เพื่อเสพ ซึ่งการเป็นเช่นนั้นทำให้ไม่มีหลักเกณฑ์ชัดเจนที่ไม่ได้กำหนดจำนวนหรือปริมาณของยาเสพติดที่แน่นอนไว้ ควรกำหนดให้ชัดเจนว่ามียาเสพติดเท่าไรที่วิญญูชนทั่วไปสามารถเข้าใจได้ว่ามีไว้เพื่อเสพหรือจำหน่าย

"

"

      จะทำให้มีผู้ครอบครองยาบ้าเพิ่มมากขึ้นและจะทำให้ยาบ้าเกลื่อนเมือง เป็นสาเหตุให้การเเก้ปัญหายาบ้าทำได้ยาก เนื่องจากมีจำนวนมากและโทษที่ได้รับจากการเสพน้อยกว่าโทษที่ได้รับจากจำหน่าย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะทำให้ยาบ้าลดน้อยลง

"

"

     ไม่เห็นด้วยเพราะว่าหากบุคคลนั้นซื้อเสพวันละ10เม็ด ในทุกๆวัน จะมีผลต่อระบบประสาทเป็นอย่างมากและเร็ว จะมีผลเป็นคนป่วยจิตเวชอาละวาดคลุ้มคลั่ง และหากบุคคลนั้นถูกดำเนินคดีในข้อหาเพียงแค่เสพก็จะไม่เข็ดหลาบเพราะโทษของผู้เสพเบา ควรกลับไปใช้กฎหมายเดิมครองครอง5เม็ดเท่ากับจำหน่าย

"

"

     กระผมเห็นว่ายาบ้าจำนวน10เม็ด มีปริมาณมากเกินไป สมควรจะเป็นผู้จำหน่ายซึ่งมีโทษหนักกว่าเสพ

"

"

     ไม่เห็นด้วย เนื่องจากการกระทำของบุคคล ย่อมเป็นเครื่องชี้เจตนาที่ชัดเจนอยู่ในตัวของมันเองอยู่แล้ว การมีไว้ในครอบครองถึง 10 เม็ด โดยวิญญูชนพึงคาดหมายได้ว่า มีไว้ในครอบครองเพื่อการจำหน่าย สอดคล้องกับข้อสันนิษฐานโดยเด็ดขาดของ พ.ร.บ.ยาเสพติดฯเดิมมากกว่า

"

"

     ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจยากขึ้น ในทางปฏิบัติ

 

"

"

     เนื่องจาก ยาบ้า 10 เม็ด ถือว่ามีปริมาณที่มากพอสมควรไม่เหมาะที่จะเป็นแค่ผู้เสพ ที่จะทำให้ผู้ที่กระทำผิดเกรงกลัวต่อกฎหมายได้ ทำให้ผู้นั้นกล้าที่จะกระทำผิดมากขึ้น และเมื่อมีผู้กระทำผิดมากขึ้น ส่งผลให้ไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องยาเสพติดให้หมดไปจากบ้านเมื่อเราได้

"

"

     ไม่เห็นด้วย เนื่องจาก การเพิ่มจำนวนอาจเป็นการเพิ่มภาระให้เจ้าหน้าที่ในการค้นหาพยานหลักฐานแล้วการรวบรวมพยานหลักฐานในคดี รวมทั้งสร้างความลำบากเป็นการเพิ่มขั้นตอนให้แก่เจ้าหน้าที่

"

"

      ไม่เห็นด้วย เนื่องจาก เห็นควร ให้ยาบ้า 5 เม็ดเป็นผู้เสพให้เป็นความผิดร้ายแรงสมือนจำหน่าย หรือผลิต เพราะยาบ้าเพียง 5 เม็ดก็ทำให้มีผลต่อสุขภาพจิต สมอง ระบบประสาท หรือทำให้ป่วยจิตเวช ทำให้มีความเสี่ยงต่อสังคมหรือชุมชนได้

"